ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประชาชนมีสิทธิดำเนินการคดีของตนในศาลผ่านตัวแทน การมีส่วนร่วมส่วนบุคคลของพลเมืองในการพิจารณาคดีไม่ได้ทำให้เขาขาดสิทธิ์ในการมีตัวแทน เพื่อให้ผู้แทนมีอำนาจที่เหมาะสมในกรณีดังกล่าวจะมีการร่างหนังสือมอบอำนาจ ในการเลือกตัวแทนและออกหนังสือมอบอำนาจ คุณต้องคำนึงถึงหลายจุด
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ตัวแทนทางกฎหมาย (พ่อแม่ พ่อแม่บุญธรรม ผู้ปกครอง) ทนายความที่ศาลแต่งตั้งและพลเมืองที่มีความสามารถ ซึ่งมีอำนาจเป็นทางการตามนั้น กล่าวคือ บุคคลที่มีหนังสือมอบอำนาจในการเป็นตัวแทน สามารถเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของผู้อื่นในศาลได้
ขั้นตอนที่ 2
หนังสือมอบอำนาจสามารถร่างและรับรองโดยทนายความ ในการทำเช่นนี้ พลเมืองที่ต้องการตัวแทนควรติดต่อสำนักงานทนายความ โดยมีรายละเอียดหนังสือเดินทางและหนังสือเดินทางของบุคคลที่เขาแนะนำให้เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของเขาในศาล
ขั้นตอนที่ 3
องค์กรที่งานหลัก (การศึกษา) มีสิทธิ์รับรองหนังสือมอบอำนาจ หากตัวการอยู่ในสถานพยาบาล ฝ่ายบริหารของสถาบันการแพทย์นี้มีสิทธิรับรองหนังสือมอบอำนาจ สถานการณ์คล้ายกับการทหาร สถาบันการศึกษาทางทหาร และหน่วยทหาร
ขั้นตอนที่ 4
หนังสือมอบอำนาจสามารถจัดทำขึ้น ณ ที่อยู่อาศัยและรับรองโดยพนักงานที่ได้รับอนุญาตของแผนกที่อยู่อาศัยตลอดจนโดยหุ้นส่วนของเจ้าของบ้านที่อยู่อาศัยผู้บริโภคหรือที่อยู่อาศัยและสหกรณ์การก่อสร้าง
ขั้นตอนที่ 5
หัวหน้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบอำนาจพิเศษขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่มีสิทธิรับรองหนังสือมอบอำนาจ หัวหน้าสถานที่กีดกันเสรีภาพรับรองหนังสือมอบอำนาจหากตัวการอยู่ในสถานที่ลิดรอนเสรีภาพ หากอาจารย์ใหญ่อยู่ในสถาบันประกันสังคม หนังสือมอบอำนาจจะได้รับการรับรองจากฝ่ายบริหารของสถาบันนี้
ขั้นตอนที่ 6
หนังสือมอบอำนาจอาจระบุรายการขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดที่ตัวแทนมีสิทธิ์ดำเนินการในนามของตัวการ หรือเพียงบางส่วนเท่านั้น ในการร่างหนังสือมอบอำนาจ จำเป็นต้องพิจารณาว่าตัวแทนจะได้รับสิทธิ์ในการมอบอำนาจภายใต้อำนาจมอบอำนาจแก่บุคคลที่สามหรือไม่ และตัวแทนจะมีสิทธิเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของตัวแทนได้นานแค่ไหน อาจารย์ใหญ่ หากไม่กำหนดระยะเวลา ให้ถือว่าหนังสือมอบอำนาจมีกำหนดระยะเวลาหนึ่งปี ระยะเวลาที่ถูกต้องสูงสุดสำหรับหนังสือมอบอำนาจคือสามปี