บทที่ 62 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งของสหพันธรัฐรัสเซียอุทิศให้กับมรดกโดยพินัยกรรม บุคคลที่ระบุไว้ในพินัยกรรมสุดท้ายของผู้ทำพินัยกรรมซึ่งเขียนขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างง่ายพร้อมการรับรองเอกสารบังคับหรือโดยทนายความอาจเข้าสู่มรดกโดยพินัยกรรม
มันจำเป็น
- - หนังสือเดินทาง;
- - ใบสมัคร;
- - รายการมวลพันธุกรรม;
- - เอกสารกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
- - เอกสารแสดงความสัมพันธ์กับผู้ทำพินัยกรรม
- - ใบมรณะบัตร;
- - เอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
เจตจำนงถูกวาดขึ้นซ้ำกัน เอกสารหนึ่งฉบับถูกเก็บไว้โดยทนายความที่ร่างหรือรับรองพินัยกรรม ฉบับที่สอง - โดยผู้ทำพินัยกรรม
ขั้นตอนที่ 2
พินัยกรรมจะถือว่าใช้ได้หากเป็นเอกสารสุดท้ายที่ร่างขึ้นก่อนผู้ทำพินัยกรรมถึงแก่กรรม หากปรากฎว่ามีพินัยกรรมที่เขียนขึ้นในภายหลัง อันสุดท้ายจะมีนัยสำคัญทางกฎหมาย
ขั้นตอนที่ 3
ในการเข้าสู่สิทธิของทายาทตามพินัยกรรม ให้ติดต่อสำนักงานทนายความ ณ ถิ่นที่อยู่สุดท้ายของผู้ทำพินัยกรรม หากไม่ทราบสถานการณ์นี้ คุณมีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อสำนักงานทนายความ ณ ที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์หลักหรือส่วนที่มีค่าที่สุดของอสังหาริมทรัพย์ ในกรณีนี้ ที่ที่ตั้งของอพาร์ตเมนต์
ขั้นตอนที่ 4
แสดงหนังสือเดินทาง กรอกใบสมัครรับมรดก คุณจะต้องส่งเอกสารเกี่ยวกับเครือญาติกับผู้ทำพินัยกรรม เอกสารกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน รายการทรัพย์สินทั้งหมด ใบมรณะบัตร ทะเบียนสมรส หากคุณหรือผู้ทำพินัยกรรมเปลี่ยนนามสกุลโดยการแต่งงาน
ขั้นตอนที่ 5
ในกรณีที่ไม่มีเอกสารใด ๆ ทนายความจะทำการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังหน่วยงานที่จำเป็นเพื่อขอรับสำเนาหรือสารสกัด
ขั้นตอนที่ 6
พินัยกรรมจะถูกประกาศให้ทายาททุกคนไม่ว่าจะระบุไว้หรือไม่ก็ตาม ทรัพย์สินที่เหลือโดยพินัยกรรมจะถูกแบ่งตามพินัยกรรมสุดท้ายของผู้ทำพินัยกรรม หากไม่ได้ระบุส่วนแบ่งของทายาทแต่ละคนในพินัยกรรมก็จะถูกโอนไปยังทายาททั้งหมดที่ระบุไว้ในเอกสารในจำนวนที่เท่ากัน
ขั้นตอนที่ 7
หากผู้ทำพินัยกรรมในขณะเสียชีวิตต้องพึ่งพาผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือพลเมืองที่มีความสามารถบางส่วน รวมทั้งผู้ที่รับเป็นบุตรบุญธรรมหรืออยู่ภายใต้การปกครอง ผู้ทำพินัยกรรมก็มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งมรดก โดยไม่คำนึงถึงคำแนะนำของผู้ทำพินัยกรรมที่เหลืออยู่ในพินัยกรรม ส่วนแบ่งมรดกที่บังคับนั้นเป็นของพลเมืองที่ระบุในส่วนแบ่งเดียวกันราวกับว่าพวกเขาเข้าสู่สิทธิของทายาทตามกฎหมาย